6. เรื่องภิกษุชาวเมืองปาฐา [50]
ข้อความเบื้องต้น
พระศาสดา เมื่อประทับอยู่ในพระเชตวัน ทรงปรารภภิกษุชาว
เมืองปาฐา ประมาณ 30 รูป ตรัสพระธรรมเทศนานี้ว่า "มุหุตฺตมปิ
เจ วิญฺญู" เป็นต้น.
ภิกษุสมาทานธุดงค์
ความพิสดารว่า พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงแสดงธรรมคราวแรกในชัฎ
แห่งป่าไร่ฝ้ายแก่สหาย 30 นั้น ผู้แสวงหาหญิงอยู่. ในกาลนั้น สหาย
ทั้งหมดเทียว ถึงความเป็นเอหิภิกขุ เป็นผู้ทรงบาตรและจีวร อันสำเร็จ
แล้วด้วยฤทธิ์ สมาทานธุดงค์ 13 ประพฤติอยู่ โดยล่วงไปแห่งกาลนาน
เข้าไปเฝ้าพระศาสดาแม้อีก ฟังอนมตัคค1ธรรมเทศนา บรรลุพระอรหัต
แล้ว อาสนะนั้นนั่นเอง.
ภิกษุทั้งหลาย สนทนากันในธรรมสภาว่า " น่าอัศจรรย์หนอ !
ภิกษุเหล่านี้ รู้แจ้งธรรมพลันทีเดียว." พระศาสดา ทรงสดับกถานั้น
แล้ว ตรัสว่า "ภิกษุทั้งหลาย ไม่ใช่แต่ในบัดนี้เท่านั้น, แม้ในกาลก่อน
ภิกษุเหล่านี้เป็นนักเลง เป็นสหายกันประมาณ 30 คน ฟังธรรมเทศนา
ของสุกรชื่อมหาตุณฑิละ ในตุณฑิลชาดก2 รู้แจ้งธรรมได้ฉับพลันทีเดียว
สมาทานศีล 5 แล้ว. เพราะอุปนิสัยนั้นนั่นเอง เขาเหล่านั้น จึงบรรลุ
พระอรหัต ณ อาสนะที่ตนนั่งแล้วทีเดียวในกาลบัดนี้ " ดังนี้แล้ว เมื่อ
1. สํ. นิทาน. 16/202. 2. ขุ. ชา. ฉักก. 27/200. อรรถกถา 5/78.
จะทรงแสดงธรรม จึงตรัสพระคาถานี้ว่า :-
6. มุหุตฺตมปิ เจ วิญฺญู ปณฺฑิตํ ปยิรุปาสติ
ขิปฺปํ ธมฺมํ วิชานาติ ชิวฺหา สูปรสํ ยถา.
"ถ้าวิญญูชน เข้าไปนั่งใกล้บัณฑิต แม้ครู่
เดียว, เขาย่อมรู้แจ้งธรรมได้ฉับพลัน, เหมือนลิ้น
รู้รสแกงฉะนั้น.
แก้อรรถ
พึงทราบเนื้อความแห่งพระคาถานี้ว่า :-
" ถ้าวิญญูชน คือว่า บุรุษผู้บัณฑิต เข้าไปนั่งใกล้บัณฑิตอื่น
แม้ครู่เดียว, เขาเรียนอยู่ สอบสวนอยู่ ในสำนักบัณฑิตอื่นนั้น ชื่อว่า
ย่อมรู้แจ้งปริยัติธรรมโดยพลันทีเดียว, แต่นั้น เขาให้บัณฑิตบอกกัมมัฏฐาน
แล้ว เพียรพยายามอยู่ในข้อปฏิบัติ, เป็นบัณฑิต ย่อมรู้แจ้งแม้โลกุตรธรรม
พลันทีเดียว, เหมือนบุรุษผู้มีชิวหาประสาทอันโรคไม่กำจัดแล้ว พอวาง
อาหารลงที่ปลายลิ้นเพื่อจะรู้รส ย่อมรู้รส อันต่างด้วยรสเค็มเป็นต้นฉะนั้น."
ในกาลจบเทศนา ภิกษุเป็นอันมาก บรรลุพระอรหัตแล้ว ดังนี้แล.
เรื่องภิกษุชาวเมืองปาฐา จบ.